นำเข้าสินค้าจากจีนกับ 7 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนการนำเข้า

นำเข้าสินค้าจากจีน 7 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการนำเข้า Next Logistics นำเข้าสินค้าจากจีน นำเข้าสินค้าจากจีนกับ 7 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนการนำเข้า 7                                                                                                           Next Logistics 768x402

นำเข้าสินค้าจากจีน สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ อาจเป็นเรื่องเสี่ยงที่คุณจะลองผิดลองถูกในการเริ่มต้นนำเข้าด้วยตนเอง

ยกเว้นเสียแต่คุณจะได้ที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพในการนำเข้าสินค้าจากจีนโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นใจ และหากได้ชิปปิ้งที่ดี ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนนำเข้า ทำให้เพิ่มกำไรได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม พื้นฐานของการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนนั้น หลักๆ คือ การควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการนำเข้าให้น้อยที่สุด เพื่อทำกำไรได้มากที่สุด และต่อไปนี้คือ 7 วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนการนำเข้า ที่ผู้ประกอบการมือใหม่ควรรู้

1. ตั้งเป้าหมาย เพื่อคำนวณต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มยอดขาย

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ คือ การกำหนดเป้าหมายให้ชัด เช่นตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะลดต้นทุนการนำเข้าโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอน มีบริษัทจำนวนไม่น้อยกลัวการตั้งเป้าหมาย ทำให้การดำเนินธุรกิจไร้ทิศทาง และไม่สามารถมองเห็นภาพที่ชัดเจนได้ในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจนำเข้าและส่งออก เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่การตั้งเป้าหมายถือเป็นวิธีที่ดีในการประเมินการดำเนินธุรกิจและสร้างกลยุทธ์เพื่อลดอุปสรรคทางการค้าในอนาคต

2. ประเมินความเสี่ยง มองหาที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำ

หากคุณเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากจีนมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ การมองหา Outsource หรือ Freight Forwarder หรือตัวแทนขนส่งสินค้าที่เป็นมืออาชีพ จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการถูกหลอก รวมทั้งยังสามารถให้คำปรึกษา คำแนะนำ ช่วยดำเนินการด้านเอกสาร พิธีการนำเข้าที่ถูกต้องกฎหมาย ย่นระยะเวลาไม่ต้องดำเนินการเอง ประหยัดทั้งเวลาและเงิน

3. วิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทาน เพื่อปรับปรุงขั้นตอนการทำงานและลดค่าใช้จ่าย

เมื่อดำเนินธุรกิจไปสักระยะ ลองใช้เวลาทบทวนประสิทธิภาพการทำงาน อะไรที่เป็นอุปสรรค และทำให้การทำงานติดขัด หากคุณมีพันธมิตรทางธุรกิจ ควรหารือเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งหมั่นศึกษาข้อตกลงทางการค้าใหม่ๆกฎหมาย ภาษีนำเข้า ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับกับธุรกิจ ที่สำคัญ อย่าลืมมองหาวิธีลดต้นทุนในการปฏิบัติงาน เช่น การสั่งซื้อสินค้าปริมาณมากๆ ในคราวเดียว และเลือกใช้บริษัทขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ราคาเป็นธรรม

4. สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมหรือองค์กรภาครัฐ

การสมัครเป็นสมาชิกขององค์กรการค้าหรือหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก ในโครงการต่างๆ จะช่วยให้คุณได้รับสิทธิพิเศษในการอบรมสัมมนา เข้าร่วมกิจกรรม ออกบูธ เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์และธุรกิจให้เป็นที่รู้จัก ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะหากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับหน่วยงาน จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้เร็วขึ้น

5. ลงทุนด้านเทคโนโลยี ประหยัดเวลา ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก

การนำเข้าสินค้าจากจีนหรือจากต่างประเทศนั้น ทำให้คุณต้องดีลกับคู่ค้าต่างชาติ ซึ่งมีวัฒนธรรมที่แตกต่าง ทั้งด้านกฎหมาย ภาษา ฯลฯ วิธีประหยัดและรวบรัดขั้นตอนการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม คือการลงทุนในโปรแกรมซอฟต์แวร์ดีๆ ซึ่งหลายๆ โปรแกรมนั้น ช่วยจัดการด้านเอกสาร ด้านบัญชีที่มีความถูกต้องแม่นยำ ช่วยป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่าแบบ Manual

6. เพิ่มปริมาณสินค้านำเข้า สั่งซื้อปริมาณมาก ประหยัดค่าขนส่ง

การสั่งซื้อสินค้าปริมาณมากในคราวเดียว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการที่ต้องสั่งซื้อซ้ำๆ รวมถึงการชำระค่าขนส่ง ค่าภาษีนำเข้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งหากนำเข้าครั้งเดียวก็จะคุ้มค่าและเสียเงินรอบเดียว อย่างไรก็ตาม การสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าในปริมาณมากนั้น ยังช่วยลดต้นทุนของสินค้า เนื่องจากส่วนใหญ่ เมื่อสั่งซื้อมาก ก็ยิ่งได้ราคาถูกลง เช่น การสั่งซื้อจากร้านค้าขายสั่งอย่าง 1688.com

7. ศึกษาข้อมูลของคู่ค้าเพื่อลดความเสี่ยง

ปัจจุบัน ธุรกิจมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดและตลอดเวลา คนที่จะอยู่รอดบนโลกใบนี้คือคนที่มีคลังข้อมูล และคอยอัปเดตข้อมูลรอบตัว รวมทั้งสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งอยู่ตลอด เช่น คู่แข่งมีอะไร คุณก็ควรจะมีเช่นกันและต้องทำให้เหนือกว่า นอกจากนี้ ต้องหมั่นสร้างกระแสอยู่เรื่อยๆ และเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

ที่มาข้อมูล : https://www.waystocap.com/blog/10-benefits-of-importing/

 

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *